12 เรื่องต้องรู้ ในการซักชุดกีฬาของคุณ

12 เรื่องต้องรู้ ในการซักชุดกีฬาของคุณ

หากคุณชอบออกกำลังกายชุดกีฬาของคุณก็จะมีกลิ่นหลังจากซักไปพักหนึ่ง หากเป็นชุดกีฬาตลจากตลาดนัด คุณคงจะไม่เสียดายนักที่จะปลดระวางชุดนั้นให้กลายเป็นชุดนอนหรือผ้าขึ้ริ้ว แต่ถ้าเป็นชุดกีฬาดีๆ มันคงจะทำใจยากสักหน่อย แต่ก็คงจะไม่ใช่เรื่อวดีที่จะสวมชุดที่แม้จะซักแล้ว แต่ยังมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ฝังแน่นไปกับชะดนั้น
และนี่คือคำแนะนำในการทำความสะอาดชุดกีฬาให้อยู่กับคุณไปนานๆ

ซักชุดกีฬาของคุณ
1.กลับด้านในของเสื้อผ้าก่อน
ก่อนที่คุณจะซักล้างเสื้อผ้า ให้กลับด้านในออกมาภายนอก เพราะเหงื่อ น้ำมัน และแบคทีเรียอื่น ๆ มาจากร่างกายของคุณ มันจะสะสมอยู่ด้านในของชุดที่คุณสวม เพื่อให้เสื้อผ้าของคุณสะอาดที่สุด ให้กลับเอาด้านในออกมาเสียก่อน

2. แช่เสื้อผ้าของคุณด้วยน้ำส้มสายชู
ผสมน้ำส้มสายชูหนึ่งส่วน กับน้ำเย็นสี่ส่วน แช่เสื้อผ้าของคุณในอ่างประมาณ 15 ถึง 20 นาที วิธีนี้จะช่วยกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกจากเสื้อผ้าของคุณ
คุณสามารถเพิ่มน้ำส้มสายชูนี้ ลงพร้อมขั้นตอนการซักล้างด้วย

3. ตรวจสอบแท็กและซักมือถ้าจำเป็น
เสื้อผ้าที่ออกกำลังกายบางชิ้นต้องซักด้วยมือ ซึ่งมักจะปรากฏในแท็กที่ติดไว้กับเสื้อผ้าราคาแพง หากแท็กบอกว่าซักด้วยมือเท่านั้น ให้คุณซักเสื้อผ้าในอ่างหรืออ่างอาบน้ำด้วยน้ำยาซักผ้า ล้างเสื้อผ้าให้สะอาด แล้วแขวนทิ้งไว้ให้แห้ง

4. ใช้ผงซักฟอกที่ปราศจากน้ำหอม
น้ำหอมอาจเป็นอันตรายต่อชุดกีฬาตัวโปรดของคุณ เพราะมันสามารถอุดตันเส้นใยของชุดกีฬา ทำให้มันสะสมกลิ่นมากขึ้น ผงซักฟอกที่ไม่มีกลิ่นหอมจะเหมาะที่สุดสำหรับเสื้อผ้ากีฬา

5. ซักชุดกีฬาของคุณในน้ำเย็น
เพราะเสื้อผ้าที่ออกกำลังกาย มักจะหดตัวในน้ำร้อน คุณจึงควรซักเสื้อผ้าของคุณด้วยน้ำเย็น เลือกโหมดน้ำที่เย็นที่สุดสำหรับเครื่องซักผ้าเมื่อต้องซักชุดออกกำลัง

การล้างอุปกรณ์ออกกำลังกาย

1. ซักรองเท้าผ้าใบของคุณในบางโอกาส
คุณสามารถซักงรองเท้าผ้าใบออกกำลังกายในเครื่องซักผ้าได้ ก่อนใส่ลงเครื่องให้เช็ดคราบโคลนหรือสิ่งสกปรกออก แล้วถอดเชือกรองเท้าออกก่อน
ใส่รองเท้าผ้าใบในปลอกหมอนแล้วมัดปิด ตั้งค่าอุณหภูมิน้ำเย็นที่สุด

2. ระวังเมื่อซักสปอร์ตบรา
คุณสามารถซักสปอร์ตบราในเครื่องซักผ้าได้ตราบใดที่คุณใช้ผงซักฟอกที่ไม่มีคลอรีน สามารถเลือกใช้น้ำร้อนหรือน้ำเย็นก็ได้ แต่ควรปล่อยให้แห้งด้วยการผึ่ง ควรซักชุดชั้นในก้วยถุงซัก วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้สปอร์ตบราของคุณติดพันภายในเครื่องซักผ้า

3. หลีกเลี่ยงน้ำยาปรับผ้านุ่มเมื่อซักถุงเท้า
ควรหลีกเลี่ยงน้ำยาปรับผ้านุ่มเมื่อซักถุงเท้า เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มอาจทำให้ถุงเท้าของคุณสะสมกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

4. ล้างสายจ๊อคสแตร็ปอย่างระมัดระวัง
เพื่อป้องกันความเสียหาย ควรล้างด้วยมือ หรือรตั้งค่าเครื่องซักผ้าโหมดที่ดเบาที่สุด ควรตากสายรัดให้แห้งเสมอ

การป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์

1. ซักชุดกีฬาทันทีที่ทำได้
ชุดที่เปียกเหงื่อที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ยิ่งนานยิ่งมีโอกาสเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ หากเป็นไปได้ควรซักมันทันที ด้วยวิธีนี้จะมีโอกาสน้อยที่จะเกิดกลิ่นเหม็น

2. แขวนผึ่งชุดเปียกเหงื่อให้แห้งก่อน
ถ้าคุณไม่มีเวลาซักทันทีหลังจากออกกำลังกาย คุณควรแขวนเสื้อผ้าที่ชุ่มเหงื่อไว้ก่อน อย่าหมกลงตะกร้าทั้งที่ยังเปียก เพราะมันจะอับชื้น แบคทีเรียจะเติบโตร่าเริง และทำให้ชุดคุณเหม็น
หากคุณเล่นกีฬาเป็นประจำ คุณควรจะหาราวสำหรับแขวนชุดเปียกเหงื่อของคุณไว้ก่อนจะถึงเวลาซัก ถ้าคุณยังไม่มีที่ผึ่ง เชื่อเถอะ ลงทุนซื้อสักชิ้น มันคุ้มกับการรักษาชุดกีฬาแสนแพงของคุณแน่นอน

3. อย่าหมกชุดกีฬาชุ่มเหงื่อไว้ในกระเป๋ากีฬาของคุณ
ยิ่งคุณปล่อยให้เสื้อผ้าออกกำลังกายเปียกเหงื่อหมกอยู่ในถุงนานเท่าไร แบคทีเรียจากเหงื่อที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว และมันจะทำให้กลิ่นยิ่งแย่ลง ทำให้การล้างออกให้หมดจดต้องใช้เวลามากขึ้น ดังนั้น ทันทีที่คุณกลับจากเล่นกีฬา ให้ถอดชุดออกแขวนผึ่งไว้ อย่าหมกในกระเป๋าทั้งที่ยังเปียกชื้น