การบำรุงหญิงหลังคลอด

ในทางการแพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของคุณแม่หลังคลอดเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจากความเสื่อมโทรมของร่างกายที่ต้องแบ่งชีวิตตัวเองเพื่อสร้างชีวิตใหม่ในครรภ์ จากการสูญเสียเลือดระหว่างการคลอด และจากการที่ต้องตรากตรำดูแลชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้น

 

ความอ่อนแอหรือสภาวะไม่สมดุลของร่างกายคุณแม่หลังคลอด ที่มักเกิดขึ้นคือ

  • พลัง"ชี่" และเลือด พร่อง
  • ความ "เย็น" จากภายนอกรุกรานสู่มดลูก
  • เลือดติดขัดที่ส่วน "เซี่ยเจียว"

 

การสูญเสียเลือดจากการคลอด ส่งผลให้คุณแม่หมาดๆมักอยู่ในสภาวะ "ชี่" และเลือดพร่อง ผลที่ตามมาของสภาวะนี้ มีตั้งแต่ปัญหาเกี่ยวกับความงาม เช่น ผมร่วง ผิวพรรณแห้งด้าน หยาบ ท้องผูก ไปจนถึงปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น เช่น เวียนศีรษะ ตาลาย ใจสั่น นอนไม่หลับ มือเท้าชา ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน อวัยวะภายในอื่นๆขาดการบำรุงเลี้ยง การทำงานผิดปกติ ไปจนถึงการที่สารจำเป็น"จิง" ของไตขาดการบำรุงเลี้ยงอย่างเพียงพอ กระทบกระเทือนถึงพลังชีวิต และความสามารถในการต้านทานโรคในระยะยาว

การนอนไม่หลับ เมื่อเกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอด นอกจากจะทำให้อ่อนเพลียแล้ว การอดนอนสามารถทำให้เกิดอาการซึมเศร้าหลังคลอดอีกด้วย

เลือดพร่องหลังคลอด ทำให้เส้นลมปราณที่ผ่านบริเวณมดลูกของคุณแม่ว่างเปล่า และเปิดออก เปิดโอกาสให้ความเย็นที่เป็นสิ่งก่อโรคจากภายนอกสามารถรุกล้ำเข้ามาได้ง่าย ความเย็นที่แทรกซึมถึงมดลูก ทำให้เลือดหยุดนิ่งไม่ไหลเวียน และปวดท้องน้อย

 

นอกจากนี้ ในทางการแพทย์แผนจีน เลือดและน้ำนมมีแหล่งที่มาเดียวกัน เลือดพร่องจึงก่อให้เกิดปัญหาน้ำนมไม่เพียงพอสำหรับการให้นมบุตร ส่งผลต่อเด็กอีกต่อหนึ่งด้วย

 

เห็นได้ว่าสภาวะเลือดพร่องหลังคลอดนี้ นำมาสู่ปัญหาสุขภาพของคุณแม่ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ขอบเขตของปัญหาสุขภาพตั้งแต่เล็กน้อยเพียง ไปจนถึงปัญหาสุขภาพร้ายแรงต่างๆมากมาย ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการดูแลสุขภาพของคุณแม่หลังคลอด

ในทางการแพทย์แผนจีนการดูแลร่างกายช่วงเวลาหลังคลอดนี้ กินระยะเวลาประมาณ 4 เดือนภายหลังการคลอด ในเดือนแรกมีความสำคัญที่สุดที่จะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

โดยปกติ คุณแม่อายุน้อยจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าคุณแม่ที่อายุมาก แต่ทั้งนี้ ปัจจัยเรื่องความแข็งแรงของพื้นฐานของร่างกายของคุณแม่แต่ละคน การดูแลสุขภาพในระหว่างตั้งครรภ์ ก็เป็นปัจจัยสำคัญของความสามารถในการฟื้นตัวนี้

 

 คำแนะนำสำหรับคุณแม่หลังคลอด 
1) ในช่วงหลังคลอด ต้องพักผ่อน และบำรุงให้เพียงพอ อย่างน้อย 1 เดือนทางจันทรคติ หรือประมาณ 28 วัน เมื่อคุณแม่รู้สึกแข็งแรงขึ้นแล้ว จึงค่อยมีกิจกรรมปานกลาง เช่น เดิน เพื่อให้เลือดและชี่กลับมาไหลเวียนเป็นปกติ

2) เสริมเลือดเพื่อทดแทนที่สูญเสียไประหว่างคลอด และเพื่อให้มีน้ำนมสำหรับลูก ด้วยอาหารบำรุงที่มีฤทธิ์อุ่น และย่อยง่าย หลีกเลี่ยง อาหาร สมุนไพร ที่มีฤทธิ์เย็น ขิงเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อคุณแม่หลังคลอด

3) หลีกเลี่ยงการออกแรงยกของในช่วงสี่เดือนแรก เพื่อให้แผลติดกันโดยเร็ว

4) การรมควันสมุนไพร การอบสมุนไพร มีประโยชน์มากต่อการอบอุ่นมดลูก ป้องกันการตกเลือด ทำให้ขนาดของมดลูกกลับสู่ปกติ กระตุ้นการสร้างน้ำนม

 

 

กระเพาะปลาเป็นสมุนไพรที่ชาวจีนนิยมใช้บำรุงสำหรับคุณแม่หลังคลอด จากสรรพคุณ บำรุงหยินของไต บำรุงตับ และไต ช่วยสร้างเลือด ช่วยห้ามเลือด จึงเป็นประโยชน์ต่อหญิงหลังคลอด ทำให้แผลแห้งเร็ว ไม่เป็นพังผืดลดโอกาสการเป็นแผลเป็นจากการผ่าตัดลง
ทำให้ไตแข็งแรง ช่วยสร้างเลือดทดแทนที่สูญเสียไป ทำให้ร่างกายฟื้นตัวสู่สภาพเดิมก่อนตั้งครรภ์ ให้คุณแม่กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว

นอกจากนี้ กระเพาะปลายังอุดมไปด้วยคอลลาเจน จึงเหมาะกับคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกอีกด้วย

         

การใช้กระเพาะปลาในคุณแม่หลังคลอด จะเริ่มรับประทานเมื่อไม่มีความผิดปกติเกี่ยวกับน้ำคาวปลาแล้ว คือไม่มีไข้ ไม่ปวดท้อง โดยปกติหลังคลอดประมาณ 10-12 วันก็ทราบแล้วว่ามีปัญหานี้หรือไม่ ไม่ต้องรอให้ขับน้ำคาวปลาออกจนหมดก่อน

การบำรุงคุณแม่หลังคลอดด้วยกระเพาะปลา สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง นาน 3 เดือนจะช่วยให้คุณแม่ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงกลับสู่สภาพก่อนตั้งครรภ์

 



Visitors: 300,030