กระ Freckles

กระ (Freckles) คือจุดเล็กๆ บนผิวหนังที่มีสีแดงถึงน้ำตาล พบบ่อยในบริเวณที่โดนแสงแดด เช่น ใบหน้า คอ หลัง หน้าอกส่วนบน มือ และแขน ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน กระมีสองประเภทหลักคือ Ephelides (กระที่เกิดจากแสงแดดและจางลงในฤดูหนาว)  และ Solar Lentigines (กระแดดหรือจุดอายุที่มักเกิดในผู้ใหญ่และสีไม่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล) ในแพทย์แผนจีน กระอาจถูกเรียกว่า "雀斑" (quèbān) และมองว่าเกิดจากความไม่สมดุลภายในร่างกายที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของชี่และเลือด ทำให้เกิดการสะสมของเม็ดสีบนผิวหนัง 

 

สาเหตุและรูปแบบความไม่สมดุลของร่างกายตามหลักแพทย์แผนจีน

แพทย์แผนจีนมองว่ากระเกิดจากความไม่สมดุลภายในร่างกายที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของชี่และเลือด ทำให้เกิดการสะสมของเม็ดสีบนผิวหนัง 

รูปแบบความไม่สมดุลหลักที่เกี่ยวข้องกับกระ:

 ภาวะเลือดพร่อง (Blood Deficiency) และเลือดคั่ง (Blood Stasis): เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดจุดด่างดำ (pigment spots) โดยเฉพาะในผู้หญิง เมื่อชี่และเลือดไหลเวียนไม่ดี จะเกิดภาวะเลือดคั่งภายใน ทำให้เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงผิวหน้าได้อย่างเพียงพอ และของเสียจากการเผาผลาญ รวมถึงเมลานิน ก็ไม่สามารถขับออกไปได้ตามปกติ จึงเกิดการสะสมเป็นกระ

 ภาวะชี่ตับติดขัด (Liver Qi Stagnation): อารมณ์ที่ไม่มั่นคง เช่น ความหงุดหงิด, ความเครียด, การนอนไม่หลับ, หรือความซึมเศร้า สามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานที่ปกติของตับ ทำให้ชี่ตับติดขัด ซึ่งนำไปสู่การเกิดกระบนใบหน้าได้

 ภาวะไตพร่อง (Kidney Deficiency): ภาวะไตพร่อง (โดยเฉพาะหยินไตพร่อง) สามารถนำไปสู่ความไม่สมดุลของหยินและหยาง, การทำงานที่ผิดปกติ, และการรบกวนการเผาผลาญ ทำให้เกิดจุดอายุ (age spots) และกระได้ เนื่องจากไตสัมพันธ์กับสีดำ ภาวะไตพร่องอาจทำให้ผิวหมองคล้ำ

 

ปัจจัยเสริม: การโดนรังสียูวีจากแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กระเข้มขึ้น  อารมณ์ที่ไม่มั่นคงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของตับ กระมักปรากฏขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น  และพันธุกรรมก็มีบทบาทในการเกิดกระ Ephelides 

 

แนวทางการปรับไลฟ์สไตล์และโภชนาการสำหรับกระ

 การรักษากระในแพทย์แผนจีนมุ่งเน้นการบำรุงเลือด, กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด, และปรับสมดุลอวัยวะภายใน

 

1. โภชนาการ

  • อาหารที่ช่วยบำรุงเลือดและตับ:

  • ผักใบเขียวเข้ม: เช่น ผักโขม

  • เนื้อแดง: โดยเฉพาะตับวัว

  • ถั่วและผลไม้สีแดง: เช่น โกจิเบอร์รี่ (Goji berries) และบีทรูท

  • เห็ดหูหนูดำ (黑木耳 - Hēi Mù Ěr) และพุทราจีน (红枣 - Hóng Zǎo): ช่วยบำรุงม้ามและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

  • ถั่วเขียว (绿豆 - Lǜ Dòu) และถั่วแดง (赤小豆 - Chì Xiǎo Dòu): ช่วยขับความชื้นและขับพิษร้อน(ถั่วเขียวและถั่วแดงมักใช้ในตำรับยาที่ช่วยขับความชื้นและขจัดความร้อน)

  • วอลนัท (核桃 - Hétáo) และงาดำ (黑芝麻 - Hēi Zhī Ma): ช่วยบำรุงตับและไต ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว [24, 25]

  • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • อาหารแปรรูป, น้ำตาลสูง, คาเฟอีน, แอลกอฮอล์: อาจเป็นภาระต่อตับและทำให้ชี่ติดขัด

  • อาหารฤทธิ์เย็นที่มากเกินไป: เช่น ไอศกรีม, ผลิตภัณฑ์นม, ผลไม้และผักดิบ

 

2. ไลฟ์สไตล์

  • การป้องกันแสงแดด: เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันกระไม่ให้เข้มขึ้นและป้องกันการเกิดกระใหม่

  • การจัดการอารมณ์: อารมณ์ที่ไม่มั่นคงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของตับ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดกระ  การรักษาสมดุลทางอารมณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

  • การนอนหลับ: การนอนหลับให้เพียงพอช่วยสนับสนุนการทำงานของตับและไต

  • การออกกำลังกาย: กิจกรรมเบาๆ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของชี่

 

สรุป

การรักษากระในแพทย์แผนจีนเน้นการแก้ไขความไม่สมดุลภายในที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของชี่และเลือด ซึ่งเป็นรากฐานของการเกิดเม็ดสี การปรับเปลี่ยนโภชนาการและไลฟ์สไตล์อย่างเหมาะสมเป็นส่วนสำคัญของแนวทางแบบองค์รวมนี้ เพื่อช่วยลดเลือนกระและบำรุงผิว ควรปรึกษาแพทย์แผนจีนเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ

 

 

 
 
Visitors: 344,976